Big Story ขอนแก่น Mega City : เมืองนี้คืออนาคต ตอนที่ 2
กว่าที่ขอนแก่นจะขับเคลื่อนเมืองให้เป็นสมาร์ท ซิตี้ ได้เป็นรูปธรรม ต้องใช้หัวใจหลักอย่างคนในพื้นที่ โดยทุกคนเห็นตรงกันว่า จะใช้แนวคิด "สมาร์ท โมบิลิตี้" เป็นตัวนำขับเคลื่อนเมือง
เพราะขอนแก่นเลือกที่จะใช้ Smart Mobility ยกระดับชีวิตคนและเมืองเข้าสู่การเป็น สมาร์ท ซิตี้ ให้สมบูรณ์แบบในปี 2573 ดังนั้นทีมขอนแก่น ธิงค์ แทงค์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จึงตีโจทย์นี้ ออกเป็น 8 ด้าน เริ่มตั้งแต่ การนำเอา iOT - Sensor - Drone ในการจัดการจราจรยุคใหม่ จนมาถึงการเปิดใช้ City Bus และ Application ในชื่อ "KK Transit " ที่ช่วยบอกเวลาการมาถึงของรถ ทำงานร่วมกับป้ายจราจรอัจฉริยะ ที่ใช้ได้จริงแล้วแห่งแรกในประเทศไทย
เราเดินทางด้วย City Bus มาถึงสนามบินขอนแก่น และพบกับป้ายรถเมล์อัจฉริยะ สอดรับกับการขยายพื้นที่ เฟส 2 ของสนามบินขอนแก่น เพิ่มการให้บริการเชื่อมโยงในแถบเอเชียได้ โดยไม่ต้องตีรถไปขึ้นเครื่องใน กรุงเทพมหานคร
รถไฟรางเบา เส้นทางแรก สำราญ-ท่าพระ ระยะทางรวม 22.8 กิโลเมตร เหตุผลที่เลือกเส้นทางนี้สายแรก เพราะมีเขตทางกว้างเพียงพอ เชื่อมต่อจุดสำคัญ และไม่ต้องเวรคืนที่ดินประชาชน โดยเป็นสถานีระดับพื้น 10 สถานี - ลอยฟ้า 6 สถานี แม้งบประมาณก่อสร้างสถานีลอยฟ้าจะสูงกว่าระดับพื้น อยู่ที่ 400 ล้านบาทต่อกิโลเมตร แต่คุ้มที่จะลงทุน เพราะ 2 ใน 6 สถานีลอยฟ้า จะเป็นจุดที่การจราจรวิกฤติในอนาคต
ทีมศึกษาออกแบบรายละเอียด ระบบขนส่งสาธารณะ ใน จังหวัดขอนแก่น ระดมผู้ทรงคุณวุฒิหัวกะทิกว่า 30 คน ศึกษารายละเอียดการก่อสร้างใระยะเวลาในสัญญา 1 ปี 5 เดือน ด้วยงบประมาณสนับสนุน 35 ล้าน 5 แสนบาท ขณะนี้การออกแบบอยู่ในช่วง Final Draft แล้ว เมื่อส่ง สนข.อนุมัติและ ครม.รับทราบ คาดว่า รถไฟรางเบาขอนแก่น จะเริ่มก่อสร้างในปลายปีนี้ พร้อมเปิดให้บริการในปี 2562 การออกแบบตกแต่งภายใน สถานี จะดึงเอาตัวตนคนขอนแก่น มาสร้างความภูมิใจแห่งอีสาน
นอกเหนือรถไฟรางเบาที่สำคัญถึงขั้นเปลี่ยนชีวิตคนขอนแก่น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าและมีผลต่อการ " อยู่รอด" ของรถไฟรางเบา นั่นคือ "พื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะ" หรือ TOD ซึ่งขณะนี้ทีมศึกษาได้ออกแบบ Concept รูปแบบการพัฒนา TOD เมืองขอนแก่นแล้ว 3 ย่าน ได้แก่ สถานีเซ็นเตอร์พ้อยต์, สถานี บขส.3 และสถานีโลตัสศิลา ทฤษฎีการสร้าง TOD ระดับสากล จะต้องสร้างความเจริญคึกคักด้านการค้า และทราฟฟิกของคน จากสถานีรถไฟในรัศมี 500 เมตร สิ่งที่ตามมาคือรายได้จากการเช่าพื้นที่ และรายได้นั้นนำมาซึ่งการนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อม-สร้างรถไฟรางเบาต่อไป
สิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดขอนแก่น ทั้งหมดล้วนมาจากการคิดด้วยการ นำ Pain Point นำ - และการแก้ปัญหาตาม โดยทีมศึกษาฯ เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า
หากไม่มี LRT ในขอนแก่น จะมีผู้ใช้รถสองแถว ในอีก 19 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 120,900 คนต่อวัน แต่หากมี LRT จะมีผู้ใช้บริการ LRT อยู่ที่ 270,000 คนต่อวัน นั่นหมายความว่า LRT สร้างทราฟฟิกให้เกิดขึ้นในเมืองได้จริง
LRT ทุกเส้นทาง แม้ทำให้ผู้โดยสารใช้รถสองแถวน้อยลง 9.3 -15.3% ซึ่งกระทบกับผู้ประกอบการ (แต่ไม่ได้ยกเลิกรถสองแถว) แต่กลับพบว่า ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเมือง อยากให้ LRT เกิดขึ้นที่ขอนแก่นโดยเร็ว เพื่อส่งต่อเมืองไปถึงลูกหลานของพวกเขาในอนาคต
Poster : kktt | 10 พฤษภาคม 60 00:00:00
© 2024 Khon Kaen City Development (KKTT) Co., LTD. All rights reserved.
Web Design & Development by Smilehost.asia